ก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย

ยกระดับพลังของกลไกเพื่อท้าทายกฎแห่งกาลเวลา ควบคุมความเสี่ยงเพื่อกำหนดวิถีที่ดีที่สุด และยืนหยัดเพื่อชัยชนะ Rolex เป็นพันธมิตรหลักของการแข่งขันความทรหดระดับตำนาน เหตุการณ์อันเป็นสัญลักษณ์ที่เลื่องชื่อสูงสุด และเป็นชื่อที่น่าจดจำที่สุดในวงการมอเตอร์สปอร์ต

การแข่งขัน 24 Hours of Le Mans การแข่งรถเอ็นดูรานซ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของมอเตอร์สปอร์ต

การแข่งขัน 24 Hours of Le Mans คือการเฉลิมฉลองความทรหดและความเป็นเลิศของวงการมอเตอร์สปอร์ต เมื่อค่ำคืนเข้าปกคลุมสนามอันเป็นเลื่องชื่อ Circuit de la Sarthe การแข่งขันนี้ได้ผลักดันทักษะและความแกร่งของนักขับไปจนถึงขีดสุด การแข่งขันครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1923 โดยมีนักแข่งจาก 33 ทีม (ทีมละสองคน) เข้าร่วม และในวันนี้ รถแข่งกว่า 60 คันพร้อมคนขับทีมละ 3 คน ต่างแย่งชิงความเป็นหนึ่ง ขณะที่ผู้ผลิตรายใหญ่และทีมเอกชนต่างแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ปี 2001 Rolex ได้รับเกียรติเป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการและเป็นนาฬิกาประจำการแข่งขันของความท้าทายอันน่าทึ่งนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความพยายามของนักแข่งทุกคนในการคว้าชัยชนะสูงสุด นั่นคือการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง

ก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watchก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watch

Rolex 24 At DAYTONA สนามระดับตำนานที่จัดการแข่งขันอันแสนยิ่งใหญ่

Daytona International Speedway ในฟลอริด้าซึ่งมีระยะทาง 5.73 กิโลเมตร (3.56 ไมล์) แห่งนี้ คือสนามประลองความทรหดของนักแข่งและทีมงานในการแข่งขันที่ใช้ระยะเวลายาวนานต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง ผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่งเหนือใครและสมรรถนะด้านเครื่องยนต์และเทคนิคระดับเหนือชั้นเท่านั้นที่จะพิชิตชัยในศึกนี้ได้ โดยการจัดอันดับจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่รถแข่งสามารถทำได้ภายในเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ Rolex เป็นผู้สนับสนุนหลักและเป็นนาฬิกาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันนี้มาตั้งแต่ปี 1992

ก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watchก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watch

The 12 Hours of Sebring แสดงสมรรถนะท่ามกลางความกดดัน

การแข่งขัน 12 Hours of Sebring ก่อตั้งขึ้นในปี 1952 ในประเทศสหรัฐอเมริกาและขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในการแข่งรถประลองความทรหดที่ท้าทายที่สุดในโลก เส้นทางแข่งที่ขรุขระเต็มไปด้วยเนินของสนามแข่ง Sebring International Raceway คือเครื่องทดสอบความน่าเชื่อถือของรถอย่างแท้จริง นักแข่งที่ลงแข่ง 24 Hours of Le Mans จะมาเยือนสนามแห่งนี้ในเดือนมีนาคมเพื่อทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์รถแข่งของพวกเขา โดย Rolex ได้ดำรงฐานะเป็นเรือนเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันรายการนี้

 

แบรนด์มอบนาฬิกา Cosmograph Daytona ให้กับผู้ชนะในทั้งสามรายการอันเลื่องชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นสามมงกุฎแห่งกีฬาแข่งรถเอ็นดูแรนซ์ระดับโลกโดยแท้

ก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watchก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watch

ความน่าเชื่อถือเหนือกาลเวลา

Rolex มีความร่วมมือกับองค์กรสำคัญระดับแนวหน้าในวงการแข่งรถเอ็นดูรานซ์ โดยนับตั้งแต่ปี 2001 แบรนด์ได้ให้การสนับสนุน Automobile Club de l’Ouest (ACO) ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans และดูแล FIA World Endurance Championship (WEC) ซึ่งเป็นการแข่งขันรถสปอร์ตระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กลไกแห่งความก้าวหน้า

เดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งที่ดียิ่งขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง นี่คือความท้าทายสำคัญทั้งด้านกีฬาและสิ่งแวดล้อมที่ทีมแข่งรถและผู้ผลิตยานยนต์ต้องเผชิญในวันนี้ นั่นคือ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานควบคู่ไปกับการผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะให้ไปไกลยิ่งกว่าเดิม Rolex ยึดมั่นในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าเสมอมา และให้การสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้

ก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watchก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watch

Tom Kristensen มิสเตอร์เลอมองส์

ในฐานะแชมป์ 24 Hours of Le Mans เก้าสมัย Tom Kristensen ซึ่งได้รับเกียรติเป็น Rolex Testimonee ตั้งแต่ปี 2010 คือยอดนักขับที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งรถรายการนี้ เขาคว้าชัยในการลงแข่งครั้งแรกในปี 1997 และครองความยิ่งใหญ่ระหว่างปี 2000 ถึง 2005 นักแข่งชาวเดนมาร์กรายนี้ยังคว้าชัยชนะเพิ่มเติมอีกสองครั้งในปี 2008 และ 2013 โดย Kristensen ขึ้นแท่นโพเดียมได้ถึง 15 ครั้งจากการลงแข่งทั้งหมด 18 ครั้งในรายการนี้ อีกทั้งยังครองตำแหน่ง FIA World Endurance Championship (WEC) (WEC) ในปี 2013 และเป็นแชมป์ 12 Hours of Sebring ถึงหกสมัยด้วย

ก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watchก้าวข้ามขีดจำกัด จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย - Srichai Watch

Jamie Chadwick นักขับผู้เป็นอนาคตของวงการ

Jamie Chadwick อายุไม่ถึง 16 ปีด้วยซ้ำเมื่อครั้งที่เธอคว้าแชมป์รายการ Silverstone 24 Hour ในปี 2015 แชมป์หญิงคนแรกของการแข่งขัน British GT Championship และผู้ชนะสามสมัยในรายการ W-Series (Formula 3) Chadwick คือตัวแทนแห่งอนาคตของมอเตอร์สปอร์ต ในฐานะ Rolex Testimonee ตั้งแต่ปี 2022 เธอสามารถคว้าชัยชนะได้ในการแข่งขันฤดูกาลเปิดตัวของเธอในรายการ European Le Mans Series ปี 2025