RolexCosmograph DaytonaOyster, 40 มม., ทองคำขาวm116519ln-0038

หน้าปัดเมธีโอไรท์และสีดำ

เมทิโอไรต์มาจากส่วนสำคัญของดาวเคราะห์หรืออาจรวมถึงส่วนของโลกที่เกิดจากการระเบิด แรงขับของวัตถุข้ามผ่านระบบสุริยะจนผ่านมาถึงวิถีโคจรของโลกและแรงโน้มถ่วงได้ดึงลงมาสู่โลกของเรา ระหว่างการเดินทาง บริเวณกึ่งกลางของเมทิโอไรต์จะค่อย ๆ เปลี่ยนรูป สร้างลวดลายของโลหะที่ไม่ธรรมดา อันเป็นผลลัพธ์มาจากการเริ่มเย็นตัวลงของแกนดาวเคราะห์ที่หลอมละลาย โดยทีมนักออกแบบของ Rolex ได้สร้างสรรค์มรดกล้ำค่าอันเป็นเอกลักษณ์ให้แก่นาฬิกาอันทรงคุณค่าบางรุ่นจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งรวมถึง Cosmograph Daytona รุ่นนี้ด้วย

มาตรวัดความเร็ว

ชิ้นส่วนสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่นนี้ก็คือขอบหน้าปัดที่มีสเกลวัดระยะเพื่อการวัดความเร็วเฉลี่ยสูงสุด 400 ไมล์หรือกิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีขั้นสูงกับความงดงามที่บางเฉียบ ขอบนาฬิกาสีดำทำให้นึกถึงนาฬิการุ่น 1965 ที่ประกอบด้วยขอบหน้าปัด Plexiglas สีดำ

ขอบหน้าปัดเซรามิก Cerachrom แบบหล่อชิ้นเดียวซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงมีข้อดีหลายประเภท เช่น ทนทานต่อการกัดกร่อน ป้องกันรอยขีดข่วน และสีที่ทนต่อรังสียูวี ขอบหน้าปัดที่มีความทนทานสูงนี้ยังมีสเกลวัดระยะที่อ่านค่าได้อย่างชัดเจนจากการเคลือบแผ่นทองคำบางหรือแพลทินัมเป็นตัวเลข และเกลาผิวให้เรียบผ่านกระบวนการ PVD (การเคลือบด้วยไอเชิงฟิสิกส์) ขอบหน้าปัด Cerachrom แบบหล่อชิ้นเดียวผลิตขึ้นจากโลหะเพียงหนึ่งชิ้นและยึดกระจกหน้าปัดให้แนบแน่นอยู่กับตัวเรือนเพื่อรับประกันคุณสมบัติในการกันน้ำ

ทองคำขาว 18 กะรัต

จากการใช้งานเตาหลอมเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Rolex สามารถหล่อโกลด์อัลลอย 18 กะรัต คุณภาพสูงสุดได้อย่างเหนือชั้น ตามอัตราส่วนของธาตุเงิน ทองแดง แพลทินัม หรือพาลาเดียมที่ถูกผสม ทำให้ได้ทองคำ 18 กะรัต อีกหลายประเภท เช่น ทองคำ เอเวอร์โรสโกลด์ และทองคำขาว ผลิตจากโลหะที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเพียงเท่านั้น และผ่านการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex อย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องมือทันสมัย ก่อนที่จะมีการหล่อและขึ้นรูปทองคำ ด้วยความใส่ใจในคุณภาพของทุกขั้นตอน ความมุ่งมั่นของ Rolex ในด้านความเป็นเลิศนั้นเริ่มต้นนับตั้งแต่แหล่งกำเนิด